amazon

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

จะสำเร็จได้ เพียงแค่คุณรู้จัก “ไหลไปตามน้ำ” บ้าง เพราะอะไร? ไปดู!

จะสำเร็จได้ เพียงแค่คุณรู้จัก “ไหลไปตามน้ำ” บ้าง เพราะอะไร? ไปดู!

หลายๆ ครั้ง เรารู้สึกว่า ทำไมคนที่ประสบความสำเร็๋จที่เรารู้จักนั้น ดูเหมือนว่าทุกอย่างในชีวิตจะวางแผนมาอย่างดีเหลือเกิน ทุกอย่างถูกปูเอาไว้เพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น แล้วทุกอย่างก็จะสำเร็จเป็นไปตามคาด
แต่นี่คือความจริงแค่บางส่วนเท่านั้น เพราะหลายๆ ครั้ง และออกจะเป็นส่วนมากเสียด้วยซ้ำที่คนที่ประสบความสำเร็จส่วนมาก ต้องแก้ปัญหาไปตามสถานการณ์ หรือ ไหลไปตามน้ำ ที่นำพาพวกเขาก้าวเดินไปในจุดๆ นั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เราคาดหวังให้ผู้นำ หรือคนในตำแหน่งสำคัญๆ ต่างๆ ต้องทำสิ่งต่างๆ ออกมาได้เป๊ะ เพราะทุกอย่างล้วนวางแผนออกมาดี ทำให้เวลาเกิดปัญหาขึ้นมา คนพวกนี้จะโดนวิจารณ์หนักสุดๆ
ทั้งนี้ สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจก็คือ ชีวิตคนเรา ธรรมชาติ มันไม่มีอะไรแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่สามารถวางแผนออกมา และเตรียมตัวไว้ได้ 100% บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ไม่สามารถคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้เป๊ะๆ เพราะฉะนั้น สิ่งที่บรรดาผู้นำทำได้ คือการแก้ไขปัญหาไปตามสถานการณ์ ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่มี
เพราะฉะนั้น หรือจะพูกอีกนัยหนึ่งก็ได้ว่า ความสำเร็จ มันคือผลผลิตจากศาสตร์ของการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเสียมากกว่า เพราะนั่นแหละ คือบทพิสูจน์ของความสำเร็จตัวจริง ว่าเราสามารถจัดการกับสิ่งที่เราคาดไม่ถึงได้มากแค่ไหน

Wu wei : The Art Of Going With The Flow
Lionel Messi ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก เขาบอกว่า เขาไม่เคยที่จะคิดภาพ วางแผนการเล่นล่วงหน้าเท่าไหร่เลย เขาใช้สัญชาติญาณการเป็นนักเตะ และประสบการณ์จากการฝึกซ้อมของเขา ในการแก้ปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าเท่านั้น และมันเป็นแบบนี้มาตลอดอายุการเป็นนักบอลของเขา

เรื่องราวของ Messi ตอกย้ำแนวคิดของคำว่า Wu Wei ในภาษาจีนที่แปลว่า Effortless action หรือที่หมายความว่า การกระทำที่ไม่ต้องพยายามอะไรมากนัก ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีรากมาจากลัทธิเต๋า ที่เกิดขึ้นที่จีนตั้งแต่ 2000 ปีก่อนแล้ว
จริงๆ แล้วแนวคิดนี้มันลึกซึ้งมาก มันมาจากความจริงเกี่ยวกับลมของภูเขา ที่พัดลงมา แม้ว่ามันไม่ได้พัดลงมาเพื่อพยายามที่จะทำอะไร แต่มันก็ยังแอคทีฟอยู่เสมอ และเวลาที่มันเจออุปสรรคอะไรก็ตามที่ขวางกั้นมัน มันก็สามารถเอาชนะและผ่านไปได้ ดังนั้น ถ้าเราทำตัวเราให้เหมือนลมภูเขาได้ ก็จะทำให้ชีวิตเราเครียดน้อยลง มีความสุขมากขึ้นนั่นเอง
และนี่คือสิ่งที่ลัทธิเต๋าพยายามจะบอกกับเรา เขาบอกว่า เราทุกคนไม่สามารถใช้ชีวิตที่เหมือนๆ กันเป็นรูปแบบได้ หรือไม่สามารถวางแผนชีวิตได้เป๊ะๆ แต่ละคนมีหนทางของตนเอง ในการใช้ชีวิตตามธรรมชาติของตนเอง ตามศักยภาพที่ตนมี และใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากที่สุด เพราะบางครั้ง การที่เราพยายามมากเกินไป คิดวิเคราะห์วางแผนอนาคต และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมากเกินไป มันก็อาจจะทำให้เราติดกับดักคึวามวิตกกังวลของตนเองก็เป็นได้
H/T: Elitedaily

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น